วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เที่ยว : เขื่อนขุนด่านปราการชล


ช่วงนี้ฝนตกติดๆกันมา 2 3 วันแล้ว บางวันตกตอนสายๆ บางวันตกตอนเย็นๆ แต่ก็ดีครับ อากาศมันร้อนมาหลายวันแล้ว พอเจอฝนตกแทบอยากจะออกไปเล่นน้ำฝน เหมือนตอนสมัยเด็กๆจัง
ส่วนเช้าวันนี้ ยังไม่มีวี่แววของฝน แต่ต้องออกไปข้างนอกเอาเจ้าบุญชู (MARCH) เข้าศูนย์ฯ นิสสันหน่อย แบบว่าเวลาวิ่ง 80 ขึ้น มีเสียงดังในห้องโดยสารมันดังจัง
สวัสดีครับ ผมเอารถมาให้ตรวจสอบหน่อยครับ
สวัสดีครับ เชิญทางนี้เลยครับ
รถเป็นอะไรครับ
.............
ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวช่างจะเช็คให้ครับ เออ...พี่ขับลองดูครับ ช่างจะนั่งไปด้วย
หลังจากลองขับให้ช่างนั่งไปด้วย ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ก็ขับกลับมาที่ศูนย์ฯ
เชิญพี่นั่งรอที่ห้องรับรองได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
ระหว่างเดินไปที่ห้องรับรอง ผมก็เปิดตู้เย็นที่มีไว้บริการลูกค้า หยิบโค้กติดมือมา 1 กระป๋อง
เดี๋ยวเสร็จแล้ว เราไปเที่ยวกันปล่ะ
ไปไหนหล่ะลูกสาวแม่ยาย จอมสงสัย
น้ำตกมวกเหล็ก น้ำตกเจ็ดสาวน้อยหรือเขื่อนขุนด่าน
ที่บอกมานี่ อยู่ที่ไหน
น้ำตกมวกเหล็กกะน้ำตกเจ็ดสาวน้อยนี่อยู่สระบุรี ส่วนเขื่อนขุนด่านนี่อยู่นครนายก
แล้วแต่ป๋า
ไปไหนดีหว่า....
เวลาผ่านไปไม่นานนัก
พี่ครับ เสร็จแล้วครับ
อ้าว..เร็วจัง มันเป็นอะไรหรอครับ
ลูกปืนล้อหลังครับ จัดการเปลี่ยนให้ใหม่เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายครับ
ขอบคุณครับ
หลังจากนั้นเราก็ขับออกจากศูนย์ฯ เข้าเส้นลำลูกกา เข้าคลอง 7 ทะลุมาเส้นรังสิต-นครนายก ไปเรื่อยๆ พอเข้านครนายกถึงทางแยกที่เลี้ยวขวาจะไปเขาใหญ่ เราก็ขับตรงไป ไปทางน้ำตกนางรอง-น้ำตกสาริกา

 “หิวยังผมถาม
หิว...
งั้นมองดูร้านข้างๆทางไว้นะ อยากกินร้านไหนก็บอก
แล้วเราก็แวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน บ้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เลยต้องหาที่กลับรถ
 “กินอะไรหล่ะ
เอาบะหมี่ต้มยำบ้านก๋วยเตี๋ยวลูกสาวแม่ยายสั่ง
สองชามครับแบบไม่ต้องคิดมาก
เครื่องดื่มอะไรดีค่ะ
น้ำแข็งเปล่าครับ
เรานั่งชมบรรยากาศในร้านได้แป๊บเดียว บะหมี่ต้มยำบ้านก๋วยเตี๋ยวก็มา
 เสร็จมื้อกลางวัน เราออกเดินทางกันต่อ
 ไม่ต้องกลัวหลงครับ เพราะมีป้ายบอก ว่าแต่ว่าดูท้องฟ้าตอนนี้..
 ร่มรื่นดีจัง
 จวนถึงที่หมายแล้วครับ ขับไปซักพักจะถึงจุดทางทึ่ขับขึ้นเขื่อน
 ขับขึ้นไปด้วยความระมัดระวัง ก็ถึงจุดหมาย
 หาที่จอดรถได้แบบสบายๆ
 นั่นไง..คุณเธอไม่รอช้า หาที่ถ่ายรูป
 จ๊าก..โดนแอบถ่าย...เดี๋ยวฟ้อง...แม่...นะโว้ย!
ช่วงเวลาที่เรามาถึง โชคดีครับ ที่ท้องฟ้าครึ้มๆ ไม่มีแดด อากาศเย็นสบาย

 ด้านล่างมีเรือจอดอยู่หลายลำ น้ำในเขื่อนมีน้อยจัง
 ด้านหลังมีลานจอดรถและห้องน้ำไว้บริการ
 ลานจอดรถกว้างมาก
 ที่สำคัญมีรถนำเที่ยววิ่งบนสันเขื่อนด้วย
 นี่ไงครับ รูปร่างหน้าตารถนำเที่ยว
 ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
 รอผู้โดยสารครบ........
 ไป....ไป.....

 ด้านหลังของเขื่อนจะเป็นที่ทำการของรัฐและเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง

 มีลานจอด ฮ.
 อีกด้านจะเป็นส่วนที่เก็บกักน้ำ


 ลืมบอกไป พอรถนำเที่ยวออกจากจุดเริ่มต้นจะมีเจ้าหน้าที่บนรถคอยประชาสัมพันธ์ถึงประวัติ ความเป็นมา สิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจ และน่าติดตามมากครับ
 พอใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดสันเขื่อนและกำลังจะกลับรถ
 “ทางเรามีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศ
“……..”
ถ้าใครต้องการเดินกลับ เราจะลดค่าโดยสารให้ครึ่งนึง
“…..”
ไม่มีใครสนใจเลยหรอค่ะ
โอ้โห...เดินกลับเนี่ยะนะผมนึกในใจ
โชเฟอร์  ออกรถเลยค่ะ...
 “ที่เห็นเรืออยู่ริบๆโน่น....เป็นเรือนักท่องเที่ยวนะคะ ท่านสามารถเช่าเรือ ชมวิว ตกปลาได้ หรือจะเข้าไปเที่ยวน้ำตกเหวนรกก็ได้
น้ำตกเหวนรกเขาใหญ่หรอครับ”  มีคนบนรถสนใจถาม
ถูกต้องคะ  ท่านนั่งเรือจากที่นี่เพียงสามชั่วโมง เดินเท้าอีกแค่เจ็ดชั่วโมง ท่านก็จะได้ชื่นชมและลงเล่นน้ำแบบสบายๆ ที่น้ำตกค่ะ
โห...
ใครมันจะไปวะเนี่ยะคิดอยู่ในใจ
 “และเรือทุกลำที่เห็นอยู่ในเขื่อนนี้ จะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นนะคะ ที่ใช้บริการ
ทำไม...ทำไม...ผมไม่เฉลย....ไปที่เขื่อนขุนด่านปราการชลเลยครับ แล้วจะทราบคำตอบ 5555
 มีความสุขกับการมีชีวิต......
=^-^=

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เที่ยว : ตลาดน้ำ - เพลินวาน - ชะอำ (จบ)


ชะอำ

ออกจากเพลินวาน เสียค่าจอดรถไป 40 บาท แม่เจ้าโว้ย! เป็นที่จอดรถใกล้ๆนั่นหล่ะ ไปหาที่พักที่ชะอำดีกว่า
"สวัสดีครับ ห้องพัก...."
"เต็มแล้วค่ะ"
"สวัสดีครับ ตอนนี้ผมเพิ่งออกจากเพลินวาน ห้องพัก...."
"เต็มแล้วค่ะ"
"คืนนี้จะมีที่นอนไหมเนี่ยะ"

"เราขับรถไปที่ชะอำแล้วค่อยๆหาที่พักเน๊าะ" ผมบอกลูกสาวแม่ยาย
"ยังไงก็ได้ แล้วแต่ป๋า"
หลังจากหาอยู่พักนึง เราก็ได้ที่พักที่โรงแรมไพศิริ ห้องละ 800 บาท
พอประมาณ 4 - 5 โมง เราก็ออกเดินเล่นชายหาดซึ่งไม่ไกลจากโรงแรม ซึ่งมีเพียงถนนชายหาดมากั้นเท่านั้นเอง
 เดินเพลินๆ
 นี่เลย  ของคู่กันกับชายหาด ม้า....ม้าครับ
 นักท่องเที่ยวมีหลายแบบ มากันเป็นกลุ่ม มาเป็นครอบครัว มาแบบเรื่อยๆ
 บ้างก็มาเดินคนเดียว
 จ๊าก! คนนี้ลูกสาวแม่ยายนี่หว่า
 สนใจห่วงยางเล่นน้ำก็ติดต่อได้
 "ป๋า  หิวแล้วอ่ะ"
"งั้นกลับห้องพักไปเอาของก่อน" ระหว่างจะเดินออกจากโรงแรมผมแวะถามพนักงานที่เคาต์เตอร์
"พอจะมีร้านอาหารทะเลแนะนำไหมครับ เอาแบบราคาคนไทยนะครับ"
"ร้าน...."
"อยู่ไกลไหมครับ"
"ไม่ไกลค่ะ ประมาณกิโลนึง"
"ขอบคุณครับ"
หาดชะอำตอนเย็นนี่เดินสบายๆ นักท่องเที่ยวบ้างก็เล่นน้ำ บ้างก็เช่าจักรยานแบบถีบคนเดียวหรือจักรยานยาวๆแบบ 2 - 3 - 4 คนถีบ บ้างก็เช่าแบบ 4 คนแต่ถีบอยู่ไม่กี่คน 555
"ป๋าเราเดินมาไกลแล้วยังถึงเลย"
ผมมองไปรอบๆตัว
"เออ น่าจะไกลกว่า 1 กิโล" เดินเลยศาลเจ้าแม่ตะเคียน(ถ้าจำชื่อไม่ผิด) กำลังจะข้ามสะพานทางเข้าวัดอะไรหว่าจำชื่อไม่ได้
"งั้นไปเช่าจักรยาน แล้วขี่กลับไปเอารถที่โรงแรมเน๊าะ"
"ดีๆ เมื่อยแล้ว เดี๋ยวขากลับเราจะแย่"
ว่าแล้วผมก็ข้ามไปเช่าจักรยาน เชิงสะพานที่เรายืนอยู่
"พี่ครับ เช่าจักรยานหน่อยครับ"
"ชั่วโมงละ 30 บาท ของบัตรประจำตัวด้วยค่ะ"
"นี่ครับ เออ..พี่ครับ  ร้าน....อยู่ไกลไหมครับ"
"เนี่ยะ  ข้ามสะพานไปก็เจอแล้ว แถวนั้นมีร้านให้เลือกเยอะ"
"ขอบคุณครับ ผมคงขี่ไม่ถึงชั่วโมงหรอกครับ กะจะขี่กลับไปที่พักไปเอารถ เดิมไม่ไหวแล้ว"
"พักอยู่ที่ไหนคะ"
"โรงแรมไพศิริครับ"
"ฮ้าที่ไหนนะ"
"โรงแรมไพศิริคัรบ"
"โอ้โหแล้วเดินมาถึงที่นี่เนี่ยะนะ"
"ครับ" แล้วผมก็ขี่จักรยานข้ามสะพานเข้าไปดูร้านอาหารทะเลต่างๆ สักพักก็เลี้ยวกลับ แล้วถีบๆ ปั่นๆ ไปที่โรงแรม ให้ลูกสาวแม่ยายขับเจ้าบุญชูออกมา ส่วนผมก็ปั่นๆ ถีบๆ เอาจักรยานไปคืนร้านพี่เค้า
"ไปเราไปร้าน....กัน" ผมบอกเมื่อเข้ามานั่งเจ้าบุญชู
"บรรยากาศดีจัง ติดทะเล" ลูกสาวแม่ยายเอ่ย
นั่งอยู่ได้สักพัก มองไปรอบตัว เหมือนจะมีหลายโต๊ะรอ...เด็ก มารับรายการอาหาร คงเป็นเพราะวันนี้คนเยอะ
"เปลี่ยนร้านเหอะ" ผมเสนอ
"ทำไมหล่ะ"
"กว่าจะได้กินคงจะอีกนาน คนเยอะเลย"
"แล้วแต่ป๋า"
เราเดินออกจากร้าน....แต่ก็ควักแบงค์ 20 ให้น้องที่ดูแลที่จอด
"ร้านนี้นะ" ผมเอ่ยขึ้นหลังจากออกมาได้ครู่นึง ร้านนี้ชื่อ อาเล็ก ซีฟู๊ดครับ
"แล้วแต่ป๋า"
เราเลือกโต๊ะที่นั่งสบายๆ ห่างๆจากโต๊ะอื่นหน่อย
"เครื่องดื่มก่อนครับ แล้วอาหารขอดูแป๊บนึง"
 555  แจ่มครับ...สู้โว้ย
"อยากกินอะไร" ผมถาม พร้อมชูมือบอกเป็นเครื่องหมายว่าพร้อมแล้วครับ
"ปลากระพงทอดน้ำปลาค่ะ" ลูกสาวแม่ยายสั่ง
"หอยแครงลวก" จานนี้ผมสั่ง
"กุ้งอบเกลือนี่ โลนึงกี่ตัวค่ะ"
"มากันสองคนหรอ" พี่ขาโจ๋ในร้านถาม
"ครับ" ผมตอบ
"ครึ่งโลก็พอแล้ว"
"งั้นตามนั้นครับพี่"
"ร้านนี้ดีเน๊าะ ไม่เอาแต่ขายอย่างเดียว" ลูกสาวแม่ยายชม
และด้วยเวลาอันรวดเร็วเมื่อของที่สั่งมาอยู่ตรงหน้า
"โช๊ะ เช๊   โช๊ะ เช๊   โช๊ะ เช๊   โช๊ะ เช๊ "
"อิ่ม....."
(ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะ  เพราะกลัวแสงเฟรชจะไปรบกวนคนอื่นเค้า)
ราคามื้อนี้ 700 กว่านิดๆ รวมเจ้าขวดเขียว 2 ขวด
กลับที่พักนอน........

ตื่นเช้ามา คุณเธอไปลงเล่นน้ำทะเลสมใจอยาก แถมถ่ายรูปแมงกะพรุนมาให้ดูด้วย
"แหม ไม่ยักกะโดนฉลามลากลงทะเลไปลอยอยู่แถวอินโดเนอะ"    ก๊าก กัก กัก
บรรยากาศยามเช้า ริมหาดชะอำ
 มีของขาย ของกิน ให้เลือกครับ ส่วนใหญ่จะเป็นโจ๊ก ข้าวต้ม อาหารทะเลแห้ง เลือกได้ตามสบาย
 เราออกจากที่พักประมาณ 8 โมงกว่าๆ ขับออกจากชะอำ พอขับสะพานต่างระดับ เข้าเส้นเพชรเกษม เจอร้านก๋วยเตี๋ยว
 (รูปนี้ยืนถ่ายหน้าร้าน)
แวะไปใช้บริการหน่อย
 มีหลายเมนูให้เลือกครับ
 เล่นไปซะ  2 ชาม
 ระหว่างเดินทางกลับรถติดไฟแดงตรงสามแยกที่จะไปท่ายาง(ท่าจำไม่ผิด) เจอพี่คนขายพวงมาลัย
สุดแจ่มเลยครับ
ช่างมีความสุข กับชีวิตจริงๆ
จบข่าว
=^-^=

เที่ยว : ตลาดน้ำ - เพลินวาน - ชะอำ (4)

เพลินวาน


จากตลาดน้ำสามพันนามขับรถเข้าตัวเมืองหัวหิน ไปเที่ยว เพลินวาน ซึ่งจะอยู่ทางซ้ายมือ ไม่ต้องกลับรถ ที่นี่ต้องเสียค่าจอดรถ แต่ไม่เสียค่าเข้าชม
 บรรยากาศของวันเก่าๆ
 "นึกถึงตอนเด็กๆ"
"นี่ไง ตอนนั้นฉันยังมีอันนี้เลย"
หลายๆคนตื่นตาตื่นใจกับของเล่นของใช้ ในวันวาน
"เฮ้อ ...เราเกิดไม่ทันว่ะ" ผมคิดเบาๆ ในใจ
 หนังกลางแปลง - ชิงช้าสวรรค์
 "อันนี้เรียกอะไร อันนั้นใช้ไง  ว้า...มีแต่ของที่เราเกิดไม่ทันนะเนี่ยะ"




ไปหล่ะ