วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เที่ยว : ตลาดน้ำ - เพลินวาน - ชะอำ (จบ)


ชะอำ

ออกจากเพลินวาน เสียค่าจอดรถไป 40 บาท แม่เจ้าโว้ย! เป็นที่จอดรถใกล้ๆนั่นหล่ะ ไปหาที่พักที่ชะอำดีกว่า
"สวัสดีครับ ห้องพัก...."
"เต็มแล้วค่ะ"
"สวัสดีครับ ตอนนี้ผมเพิ่งออกจากเพลินวาน ห้องพัก...."
"เต็มแล้วค่ะ"
"คืนนี้จะมีที่นอนไหมเนี่ยะ"

"เราขับรถไปที่ชะอำแล้วค่อยๆหาที่พักเน๊าะ" ผมบอกลูกสาวแม่ยาย
"ยังไงก็ได้ แล้วแต่ป๋า"
หลังจากหาอยู่พักนึง เราก็ได้ที่พักที่โรงแรมไพศิริ ห้องละ 800 บาท
พอประมาณ 4 - 5 โมง เราก็ออกเดินเล่นชายหาดซึ่งไม่ไกลจากโรงแรม ซึ่งมีเพียงถนนชายหาดมากั้นเท่านั้นเอง
 เดินเพลินๆ
 นี่เลย  ของคู่กันกับชายหาด ม้า....ม้าครับ
 นักท่องเที่ยวมีหลายแบบ มากันเป็นกลุ่ม มาเป็นครอบครัว มาแบบเรื่อยๆ
 บ้างก็มาเดินคนเดียว
 จ๊าก! คนนี้ลูกสาวแม่ยายนี่หว่า
 สนใจห่วงยางเล่นน้ำก็ติดต่อได้
 "ป๋า  หิวแล้วอ่ะ"
"งั้นกลับห้องพักไปเอาของก่อน" ระหว่างจะเดินออกจากโรงแรมผมแวะถามพนักงานที่เคาต์เตอร์
"พอจะมีร้านอาหารทะเลแนะนำไหมครับ เอาแบบราคาคนไทยนะครับ"
"ร้าน...."
"อยู่ไกลไหมครับ"
"ไม่ไกลค่ะ ประมาณกิโลนึง"
"ขอบคุณครับ"
หาดชะอำตอนเย็นนี่เดินสบายๆ นักท่องเที่ยวบ้างก็เล่นน้ำ บ้างก็เช่าจักรยานแบบถีบคนเดียวหรือจักรยานยาวๆแบบ 2 - 3 - 4 คนถีบ บ้างก็เช่าแบบ 4 คนแต่ถีบอยู่ไม่กี่คน 555
"ป๋าเราเดินมาไกลแล้วยังถึงเลย"
ผมมองไปรอบๆตัว
"เออ น่าจะไกลกว่า 1 กิโล" เดินเลยศาลเจ้าแม่ตะเคียน(ถ้าจำชื่อไม่ผิด) กำลังจะข้ามสะพานทางเข้าวัดอะไรหว่าจำชื่อไม่ได้
"งั้นไปเช่าจักรยาน แล้วขี่กลับไปเอารถที่โรงแรมเน๊าะ"
"ดีๆ เมื่อยแล้ว เดี๋ยวขากลับเราจะแย่"
ว่าแล้วผมก็ข้ามไปเช่าจักรยาน เชิงสะพานที่เรายืนอยู่
"พี่ครับ เช่าจักรยานหน่อยครับ"
"ชั่วโมงละ 30 บาท ของบัตรประจำตัวด้วยค่ะ"
"นี่ครับ เออ..พี่ครับ  ร้าน....อยู่ไกลไหมครับ"
"เนี่ยะ  ข้ามสะพานไปก็เจอแล้ว แถวนั้นมีร้านให้เลือกเยอะ"
"ขอบคุณครับ ผมคงขี่ไม่ถึงชั่วโมงหรอกครับ กะจะขี่กลับไปที่พักไปเอารถ เดิมไม่ไหวแล้ว"
"พักอยู่ที่ไหนคะ"
"โรงแรมไพศิริครับ"
"ฮ้าที่ไหนนะ"
"โรงแรมไพศิริคัรบ"
"โอ้โหแล้วเดินมาถึงที่นี่เนี่ยะนะ"
"ครับ" แล้วผมก็ขี่จักรยานข้ามสะพานเข้าไปดูร้านอาหารทะเลต่างๆ สักพักก็เลี้ยวกลับ แล้วถีบๆ ปั่นๆ ไปที่โรงแรม ให้ลูกสาวแม่ยายขับเจ้าบุญชูออกมา ส่วนผมก็ปั่นๆ ถีบๆ เอาจักรยานไปคืนร้านพี่เค้า
"ไปเราไปร้าน....กัน" ผมบอกเมื่อเข้ามานั่งเจ้าบุญชู
"บรรยากาศดีจัง ติดทะเล" ลูกสาวแม่ยายเอ่ย
นั่งอยู่ได้สักพัก มองไปรอบตัว เหมือนจะมีหลายโต๊ะรอ...เด็ก มารับรายการอาหาร คงเป็นเพราะวันนี้คนเยอะ
"เปลี่ยนร้านเหอะ" ผมเสนอ
"ทำไมหล่ะ"
"กว่าจะได้กินคงจะอีกนาน คนเยอะเลย"
"แล้วแต่ป๋า"
เราเดินออกจากร้าน....แต่ก็ควักแบงค์ 20 ให้น้องที่ดูแลที่จอด
"ร้านนี้นะ" ผมเอ่ยขึ้นหลังจากออกมาได้ครู่นึง ร้านนี้ชื่อ อาเล็ก ซีฟู๊ดครับ
"แล้วแต่ป๋า"
เราเลือกโต๊ะที่นั่งสบายๆ ห่างๆจากโต๊ะอื่นหน่อย
"เครื่องดื่มก่อนครับ แล้วอาหารขอดูแป๊บนึง"
 555  แจ่มครับ...สู้โว้ย
"อยากกินอะไร" ผมถาม พร้อมชูมือบอกเป็นเครื่องหมายว่าพร้อมแล้วครับ
"ปลากระพงทอดน้ำปลาค่ะ" ลูกสาวแม่ยายสั่ง
"หอยแครงลวก" จานนี้ผมสั่ง
"กุ้งอบเกลือนี่ โลนึงกี่ตัวค่ะ"
"มากันสองคนหรอ" พี่ขาโจ๋ในร้านถาม
"ครับ" ผมตอบ
"ครึ่งโลก็พอแล้ว"
"งั้นตามนั้นครับพี่"
"ร้านนี้ดีเน๊าะ ไม่เอาแต่ขายอย่างเดียว" ลูกสาวแม่ยายชม
และด้วยเวลาอันรวดเร็วเมื่อของที่สั่งมาอยู่ตรงหน้า
"โช๊ะ เช๊   โช๊ะ เช๊   โช๊ะ เช๊   โช๊ะ เช๊ "
"อิ่ม....."
(ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะ  เพราะกลัวแสงเฟรชจะไปรบกวนคนอื่นเค้า)
ราคามื้อนี้ 700 กว่านิดๆ รวมเจ้าขวดเขียว 2 ขวด
กลับที่พักนอน........

ตื่นเช้ามา คุณเธอไปลงเล่นน้ำทะเลสมใจอยาก แถมถ่ายรูปแมงกะพรุนมาให้ดูด้วย
"แหม ไม่ยักกะโดนฉลามลากลงทะเลไปลอยอยู่แถวอินโดเนอะ"    ก๊าก กัก กัก
บรรยากาศยามเช้า ริมหาดชะอำ
 มีของขาย ของกิน ให้เลือกครับ ส่วนใหญ่จะเป็นโจ๊ก ข้าวต้ม อาหารทะเลแห้ง เลือกได้ตามสบาย
 เราออกจากที่พักประมาณ 8 โมงกว่าๆ ขับออกจากชะอำ พอขับสะพานต่างระดับ เข้าเส้นเพชรเกษม เจอร้านก๋วยเตี๋ยว
 (รูปนี้ยืนถ่ายหน้าร้าน)
แวะไปใช้บริการหน่อย
 มีหลายเมนูให้เลือกครับ
 เล่นไปซะ  2 ชาม
 ระหว่างเดินทางกลับรถติดไฟแดงตรงสามแยกที่จะไปท่ายาง(ท่าจำไม่ผิด) เจอพี่คนขายพวงมาลัย
สุดแจ่มเลยครับ
ช่างมีความสุข กับชีวิตจริงๆ
จบข่าว
=^-^=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น